Design for Change

สสส. ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ความปลอดภัยสู่อนาคต จัดประชุมใหญ่ระดมสมองจากทุกภาคส่วน ร่วมวางแผนปี 2569

กรุงเทพฯ – วันที่ 6 มิถุนายน 2568 สำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม (สำนัก 10) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “เพื่อพัฒนาแผนการจัดการความปลอดภัยและปัจจัยเสี่ยงทางสังคม ประจำปีงบประมาณ 2569” ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชัน กรุงเทพฯ พร้อมเปิดช่องทางประชุมผ่าน Zoom Meeting เพื่อให้ภาคีเครือข่ายจากทั่วประเทศได้มีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง

การประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญในการระดมความคิดเห็น ข้อเสนอเชิงนโยบาย และแนวปฏิบัติที่ตอบโจทย์สถานการณ์จริงในพื้นที่จากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาชน เพื่อนำไปสู่การยกร่างแผนปฏิบัติการปี 2569 ที่ตอบสนองความท้าทายของสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

พิธีเปิด: ขับเคลื่อนด้วยวิสัยทัศน์และพันธกิจเพื่ออนาคตปลอดภัยของทุกคน เวลา 09.00 น. นางก่องกาญจน์ ทักษ์หิรัญฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนัก 10 สสส. กล่าวเปิดการประชุมและนำเสนอกรอบยุทธศาสตร์ เป้าหมาย และแนวทางสำคัญของแผนการดำเนินงานในปี 2569 โดยเน้นการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนเพื่อจัดการความเสี่ยงทางสังคมในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านถนน ความรุนแรงในครอบครัว สารเสพติด ความรุนแรงทางเพศ ความปลอดภัยในโรงเรียน และการสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเยาวชน

“ปี 2569 เราให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนแผนโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และใช้ข้อมูลเชิงหลักฐานเพื่อขับเคลื่อนเชิงรุก” — นางก่องกาญจน์ กล่าว

เติมพลังสมอง เปิดบทสนทนาอย่างสร้างสรรค์ การประชุมดำเนินไปด้วยกิจกรรมเชิงปฏิบัติการที่เปิดพื้นที่ให้ผู้เข้าร่วมได้สะท้อนประสบการณ์ แลกเปลี่ยนความเห็น ผ่านกิจกรรม “How are you? ทักทาย ใครกำลังทำอะไรอยู่?” โดย ดร.อุดม หงส์ชาติกุล ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้และเปิดใจร่วมมือกันระหว่างภาคีเครือข่าย

จากนั้น ดร.สุเมธ องกิตติกุล นักวิจัยอาวุโสจาก TDRI ได้เสนอข้อมูลสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนนในประเทศไทยล่าสุด และการขับเคลื่อนภายใต้แผนแม่บทความปลอดภัยทางถนนฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2565–2567) พร้อมชี้ให้เห็นถึงช่องว่างทางนโยบายที่ต้องเติมเต็มในการวางแผนปีถัดไป

วิจัยนำทาง ข้อมูลขับเคลื่อน รศ.ดร.อรพรรณ คงมาลัย และคณะวิจัย นำเสนอผลการทบทวนและประเมินผลช่วงครึ่งทางของ “แผนการจัดการความปลอดภัยและปัจจัยเสี่ยงทางสังคม พ.ศ. 2566–2570” ซึ่งสะท้อนถึงความก้าวหน้าในหลายด้าน แต่ยังมีข้อท้าทายสำคัญ เช่น ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงมาตรการป้องกัน และการขาดการบูรณาการในระดับพื้นที่

อีกหนึ่งช่วงสำคัญคือ การเปิดเวทีให้กับเครือข่ายเยาวชน 5 เครือข่ายจากทั่วประเทศ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สสส. ได้นำเสนอผลงานและบทเรียนจากภาคสนามในประเด็นความปลอดภัยทางถนนในชุมชน เช่น การสร้างเครือข่ายนักเรียนอาสา การพัฒนาเกมการเรียนรู้ และการใช้ AI และโซเชียลมีเดียในการรณรงค์

ภาคบ่าย: เครือข่ายร่วมเสนอทิศทางงานความปลอดภัย เป็นการเปิดเวทีให้ภาคีเครือข่ายจากหลากหลายสาขา ได้เสนอ “งานสำคัญและแนวทางที่พร้อมขยายผล” ซึ่งมีหัวข้อหลากหลาย ตั้งแต่เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย การออกแบบเมืองที่เป็นมิตรกับผู้คน ไปจนถึงการสร้างระบบเฝ้าระวังในชุมชน ตัวอย่างจากภาคีที่ได้รับความสนใจคือ “โครงการถนนปลอดภัยเพื่อเด็ก” ซึ่งใช้แนวคิด Design for Change ร่วมกับโรงเรียนท้องถิ่น

เวิร์กช็อประดมสมอง: สร้างวิสัยทัศน์ร่วมปี 2569 เวลา 15.15 น. ผู้เข้าร่วมได้ร่วมกิจกรรม “ก้าวอย่างไร…ให้ถึงเป้าหมายของเรา” โดย ดร.อุดม หงส์ชาติกุล เพื่อทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากเวทีตลอดทั้งวัน และร่วมกันออกแบบ “ภาพอนาคตที่อยากเห็น” รวมถึงสิ่งที่ควรเกิดขึ้นในปี 2569 เพื่อสร้างประเทศไทยที่ปลอดภัยมากขึ้น

ในช่วงท้ายของการประชุม ภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนนได้นำเสนอ “แนวทางและโครงการร่วมปี 2569” พร้อมระบุจุดคานงัดสำคัญที่จะเร่งการเปลี่ยนแปลง เช่น การผลักดันให้เกิดศูนย์ข้อมูลระดับท้องถิ่น การเชื่อมโยงหน่วยงานระดับตำบลกับระดับชาติ และการสนับสนุนนวัตกรรมจากภาคประชาชน

ก่อนปิดการประชุม สำนักงานสำนัก 10 สสส. ได้สรุปสาระสำคัญของวันประชุม พร้อมย้ำว่า ข้อเสนอทั้งหมดจะถูกนำไปกลั่นกรองและยกร่างเป็น “แผนการจัดการความปลอดภัยและปัจจัยเสี่ยงทางสังคม ประจำปีงบประมาณ 2569” อย่างรอบด้าน และพร้อมสำหรับการนำเสนอในเวทีระดับประเทศ

“เวทีนี้เป็นมากกว่าการประชุม เพราะคือพื้นที่เรียนรู้ร่วมกันของคนที่มีหัวใจเดียวกัน – เราอยากเห็นประเทศไทยปลอดภัยขึ้น และเชื่อว่าทำได้จริง” — นายฮาริส มาศชาย กล่าว

การประชุมครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของประเทศไทย ในการสร้างสังคมที่ปลอดภัยและมีสุขภาวะสำหรับทุกคน โดยอาศัยพลังของการมีส่วนร่วม ความรู้ ข้อมูล และจิตอาสา จากภาคีทุกภาคส่วน เพื่อวางรากฐานที่มั่นคงสู่อนาคตที่ดีขึ้น

“เพราะความปลอดภัยไม่ใช่เพียงนโยบาย…แต่คือคุณภาพชีวิตของพวกเราทุกคน”

รูปภาพ